​ทนความเย็นชาไม่ไหว! เผยเบื้องหลังการ์นาโช่ลาผี - ยักษ์ใหญ่พร้อมใจเมิน

อเลฮานโดร การ์นาโช่ กำลังจะกลับมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ดในฐานะนักเตะเชลซีไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังย้ายทีม ท่ามกลางกระแสข่าวจากบทความของ ซามูเอล ลัคเฮิร์สต์ บรรณาธิการของ Manchester Evening News ที่ชี้ว่าปฏิกิริยาของ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่มีต่อการ์นาโช่ คือบทสรุปที่ชัดเจนว่าการย้ายทีมครั้งนี้เป็นผลมาจากพฤติกรรมของตัวนักเตะเอง และการที่สโมสรใหญ่อย่างอาร์เซนอล, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และแอตเลติโก มาดริด ต่างปฏิเสธโอกาสที่จะเซ็นสัญญากับเขา ก็ยิ่งตอกย้ำเรื่องนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน ปี 2022 ภาพที่พี่ชายของการ์นาโช่หลั่งน้ำตาด้วยความดีใจในบ็อกซ์วีไอพีของโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อได้เห็นน้องชายลงประเดิมสนามให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงติดตาตรึงใจ แต่ในช่วงซัมเมอร์นี้ที่เขาย้ายไปอยู่กับเชลซี กลับไม่มีใครเสียน้ำตาให้กับการจากลาครั้งนี้เลย อันที่จริงแล้ว การ์นาโช่ได้เตรียมการสำหรับการย้ายทีมครั้งนี้มาตั้งแต่ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะในฤดูหนาวแล้ว

ระหว่างการทัวร์เอเชียของแมนฯ ยูไนเต็ด หลังจบฤดูกาลที่แล้ว การ์นาโช่แสดงท่าทีที่ไม่พอใจและดูเหมือนจะไม่ใส่ใจกับการทัวร์ปรีซีซั่นเท่าที่ควร ที่ศูนย์ฝึกแคร์ริงตัน เขาก็ค่อยๆ กลายเป็นบุคคลที่ไม่เป็นที่ต้อนรับ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนเดียวก็ตาม

การ์นาโช่ย้ายมาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ดตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยมีความคิดที่จะอยู่กับสโมสรใดสโมสรหนึ่งไปตลอด เขาใช้เวลาไม่ถึง 5 ปีนับจากย้ายมาจากแอตเลติโก มาดริด ก่อนจะยุติความสัมพันธ์กับแมนฯ ยูไนเต็ด และในช่วงหลายเดือนสุดท้ายก่อนอำลาสโมสร เขาก็ตกอยู่ในสภาวะโดดเดี่ยวอีกครั้ง

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา การ์นาโช่ได้ย้ายออกจากคฤหาสน์ของเขาในเชชเชอร์ แต่ยังคงจ่ายค่าเช่าต่อไปแม้จะย้ายไปอยู่บ้านหลังที่เล็กกว่าก็ตาม ในตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ออกมายืนยันว่าการย้ายที่อยู่ของเขาไม่เกี่ยวข้องกับอนาคต แต่ความจริงคือพ่อแม่และพี่น้องของเขากลับไปสเปนแล้ว

การย้ายทีมอีกครั้งกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อการ์นาโช่ถูกตัดชื่อออกจาก 11 ตัวจริงในเกมนัดชิงชนะเลิศยูโรปาลีก เขาควรจะคาดเดาเรื่องนี้ได้ แต่ด้วยความไร้เดียงสา เขากลับไม่ใส่ใจและถึงกับไปย้อมสีผมเพื่อเกมนัดชิงโดยเฉพาะ ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เขาเปลี่ยนจากผู้เล่นคนสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ กลายเป็นผู้เล่นที่พึ่งพาไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง

เช่นเดียวกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด, การ์นาโช่ไม่สามารถทนต่อการถูกเมินเฉยจากผู้จัดการทีมคนใหม่ได้ ในยุคของ เอริค เทน ฮาก เขาเคยถูกตำหนิหลายครั้งทั้งเรื่องมาสายและโพสต์ข้อความเชิงลบบนโซเชียลมีเดีย แต่ภายใต้การคุมทีมของ อโมริม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็มาถึงจุดที่ไม่อาจหวนคืนได้

หลังจบเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนักเตะและโค้ชเคยพยายามที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ เพื่อนร่วมทีมเองก็แสดงความห่วงใยและอดทนกับเขามากขึ้น บรูโน่ แฟร์นันเดส เคยคอยดูแลเอาใจใส่การ์นาโช่เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็จะคอยชี้ให้เห็นถึงปัญหาเมื่อเขาทำผลงานได้ไม่ดี

มีรายงานว่าทั้งอาร์เซนอล, สเปอร์ส และแอตเลติโก มาดริด ได้ตรวจสอบประวัติของเขาอย่างละเอียด ก่อนจะตัดสินใจล้มเลิกโอกาสในการเซ็นสัญญา การที่เชลซียอมจ่ายเงิน 40 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเขาไปจึงอาจเรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะต้องเผชิญกับเสียงโห่เมื่อกลับมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด

ทุกครั้งที่มีนักเตะจากอคาเดมี่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ อคาเดมี่ของแมนฯ ยูไนเต็ดมักจะยกย่องตัวเอง แต่เมื่อนักเตะเหล่านั้นสร้างปัญหา พวกเขากลับเงียบหายไป ปัญหาเช่นนี้เคยเกิดขึ้นกับทั้งการ์นาโช่, แรชฟอร์ด และเมสัน กรีนวู้ด คนวงในของสโมสรยังระบุว่า โรเบิร์ต พี่ชายที่ชอบทำตัวโดดเด่นของการ์นาโช่ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวปัญหาเช่นกัน แมนฯ ยูไนเต็ดจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแนวโน้มพฤติกรรมเช่นนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักเตะเยาวชนมีความรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นก่อนที่พวกเขาจะอายุครบ 21 ปี