อาร์เซนอลทุ่ม 67.5 ล้านปอนด์คว้า เอเซ่ พร้อมเผย 2 แข้งที่เคยเป็นแผนสำรอง

อาร์เซนอลสร้างความฮือฮาในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยการทุบสถิติสโมสรคว้าตัว เอเบเรชี่ เอเซ่ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งจากคริสตัล พาเลซ ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 67.5 ล้านปอนด์ โดยการเซ็นสัญญาครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญ แต่ยังเป็นการสร้างความผิดหวังให้กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งเคยเกือบจะบรรลุข้อตกลงกับนักเตะรายนี้ได้แล้ว

การย้ายมาของ เอเซ่ ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม ถือเป็นการยกระดับเกมรุกของ "เดอะ กันเนอร์ส" ขึ้นไปอีกขั้น โดยในฤดูกาล 2024-25 ที่ผ่านมา เอเซ่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ด้วยการทำผลงาน 14 ประตู และ 12 แอสซิสต์ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ช่วยให้พาเลซเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ตามรายงานจาก The Athletic สื่อกีฬาชื่อดัง ระบุว่าอาร์เซนอลเริ่มจับตามองเอเซ่มาตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากความไม่แน่นอนในอนาคตของ อีธาน เอ็นวาเนรี่ ดาวรุ่งของทีม แม้สุดท้ายแล้วเอ็นวาเนรี่จะตัดสินใจต่อสัญญากับสโมสร แต่การเดินหน้าคว้าตัวเอเซ่ วัย 27 ปี ก็ยังคงดำเนินต่อไปจนสำเร็จลุล่วง

รายงานยังเปิดเผยอีกว่า นอกจากเป้าหมายอันดับหนึ่งอย่าง เอเซ่ แล้ว อาร์เซนอลยังได้พิจารณาตัวเลือกอื่นไว้เป็นแผนสำรอง หากดีลหลักไม่สำเร็จ โดยมีชื่อของ มอร์แกน กิบส์-ไวท์ จากน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และ มอร์แกน โรเจอร์ส จากแอสตัน วิลล่า สองนักเตะชาวอังกฤษที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งในรายของกิบส์-ไวท์เองก็เคยตกเป็นข่าวใกล้ชิดกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า เอเซ่ คือผู้เล่นที่ถูกใจกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มากที่สุด

การมาของเอเซ่ในครั้งนี้ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที หลังจากที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ทำให้แฟนบอลต่างคาดหวังว่าเขาจะได้ประเดิมสนามให้กับทีมในนัดสำคัญที่จะบุกไปเยือนลิเวอร์พูลในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เอเซ่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าแฟนบอลอาร์เซนอลเป็นครั้งแรกที่เอมิเรตส์ สเตเดียม ก่อนเกมที่ทีมจะพบกับลีดส์ ยูไนเต็ด โดยเขาได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ซึ่งเป็นหมายเลขระดับตำนานของสโมสรที่เคยถูกสวมโดย เมซุต โอซิล และ เดนนิส เบิร์กแคมป์ อีกด้วย