กฎการใช้จ่ายของพรีเมียร์ลีกตอนนี้ไม่ยุติธรรม, เจ้าของทีมอยากลงทุนซื้อนักเตะแต่ทำไม่ได้

เมื่อเร็วๆ นี้ จอห์น แม็คกินน์ (John McGinn) กัปตันทีมแอสตัน วิลลา ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎการใช้จ่ายของพรีเมียร์ลีกอย่างรุนแรง โดยระบุว่ากฎเหล่านี้กำลังขัดขวางการพัฒนาของทีม และสร้างความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมให้กับสโมสรในกลุ่ม "บิ๊ก 6"

ฤดูร้อนนี้ เจ้าของสโมสรอย่างกลุ่ม V Sports ไม่สามารถทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเสริมทัพนักเตะได้ เนื่องจากสโมสรต้องปฏิบัติตามกฎต้นทุนทีมของยูฟ่า (UEFA) ซึ่งจำกัดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายด้านค่าเหนื่อยนักเตะเมื่อเทียบกับรายรับของสโมสร

แม็คกินน์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า: "ปีนี้ตอนดูแชมเปี้ยนส์ลีกก็รู้สึกอิจฉาบ้างครับ แต่เป้าหมายของเราคือการไปให้ไกลที่สุดในยูโรปาลีก และพยายามกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้อีกครั้ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้สโมสรพัฒนาในฤดูกาลหน้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีในระยะยาวอีกด้วย"

"เราได้เห็นผลกระทบของการได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว ผมไม่รู้รายละเอียดลึกๆ หรอก แต่คุณไม่จำเป็นต้องฉลาดมากก็เข้าใจได้ว่า ถ้าคุณอยากจะแข่งขันกับทีมยักษ์ใหญ่ กฎระเบียบ (ในปัจจุบัน) นั้นไม่ยุติธรรมเลยในความคิดของผม"

"เจ้าของสโมสรของเราต้องการลงทุนในทีม อยากซื้อนักเตะเข้ามาเพื่อผลักดันสโมสรให้ก้าวไปข้างหน้า แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดครับ กฎเหล่านี้คล้ายๆ กันกับหลายๆ สโมสรเลย"

แม็คกินน์ยังกล่าวเสริมว่า: "ผมคิดว่าการที่เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบแบบนี้จะทำให้ทุกคน รวมถึงผู้จัดการทีมและนักเตะมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากขึ้น สำหรับแฟนบอลทุกคนก็เหมือนกันครับ พวกเขาก็อยากได้ 'ของเล่นใหม่' พอฤดูร้อนไม่มีนักเตะใหม่เข้ามา คุณก็จะคิดว่า 'เฮ้ย นักเตะใหม่อยู่ไหน' แต่หลังจากนั้นคุณก็จะตระหนักได้ว่านักเตะที่เรามีอยู่ตอนนี้ก็ดีพอสมควรแล้ว"

"เราเพิ่งเซ็นสัญญาใหม่ระยะยาวกับ บับบาการ์ กามารา (Boubacar Kamara) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของยุโรป เราสามารถรั้งตัวนักเตะคนสำคัญไว้ได้ ไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆ เราพร้อมจะเผชิญหน้ากับฤดูกาลใหม่และหวังว่าจะสร้างฤดูกาลที่พิเศษขึ้นมาอีกครั้ง"

"นับตั้งแต่ผู้จัดการทีมเข้ามาคุมทีม เราก็ได้สร้างผลงานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเขาก็มีแรงผลักดันไม่ต่างจากพวกเราที่จะทำมันให้สำเร็จอีกครั้ง"