​สองอัจฉริยะที่ไม่เข้ากัน! สื่อชี้ เอ็มบัปเป้-วินิซิอุส แทบไม่ส่งบอลให้กัน ผลงานเหมือนแม่เหล็กที่ผลักกัน

วันที่ 21 กรกฎาคม หนังสือพิมพ์ Diario AS ของสเปนได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันระหว่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้ และ วินิซิอุส จูเนียร์ สองดาวเด่นของเรอัล มาดริด โดยระบุว่าทั้งคู่คือ "สองอัจฉริยะที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน"

AS ได้ยกข้อมูลมาอธิบายว่าทำไมสองอัจฉริยะนี้ถึงไม่สามารถเล่นร่วมกันได้ ฤดูกาลที่แล้ว เรอัล มาดริดลงเล่นทั้งหมด 68 นัด รวม 6,240 นาที โดยวินิซิอุสและเอ็มบัปเป้อยู่ในสนามพร้อมกัน 3,439 นาที (คิดเป็น 55% ของเวลาทั้งหมด) ในขณะที่เวลาลงสนามของแต่ละคนก็ใกล้เคียงกัน คือ วินิซิอุส 4,631 นาที และเอ็มบัปเป้ 4,745 นาที นี่คือข้อมูลพื้นฐานที่บ่งชี้ถึงปัญหาที่ไม่ลงรอยกัน และสถานการณ์จริงเป็นดังนี้:

ประการแรก วินิซิอุสส่งบอลให้เอ็มบัปเป้เพียง 15% เท่านั้น ฤดูกาลที่แล้ว วินิซิอุสทำแอสซิสต์ไป 16 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าเอ็มบัปเป้ที่ทำได้ 5 ครั้งอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เกิดความกังวลว่าวินิซิอุสดูจะเป็นผู้จ่ายบอลมากกว่า ในบรรดาการส่งบอลทั้งหมด 1,315 ครั้งของวินิซิอุสในฤดูกาลที่แล้ว มีเพียง 202 ครั้งเท่านั้นที่ส่งให้ "เต่าทอง" (ฉายาของเอ็มบัปเป้)

ประการที่สอง เอ็มบัปเป้ก็ส่งบอลให้วินิซิอุสเพียง 13% เช่นกัน แม้ว่าบางครั้งทั้งคู่จะมีการประสานงานกันบ้าง แต่โดยเฉลี่ยแล้วการประสานงานของพวกเขามีน้อยมาก ฤดูกาลที่แล้ว เอ็มบัปเป้จ่ายบอลทั้งหมด 1,413 ครั้ง ในจำนวนนี้มีเพียง 184 ครั้งที่ส่งให้วินิซิอุส แม้ว่าเอ็มบัปเป้จะเน้นการจบสกอร์มากกว่าการจ่ายบอล แต่ข้อมูลนี้ก็น่าเป็นห่วง ทั้งคู่แทบไม่ค่อยประสานงานกัน และไม่ค่อยเข้าใจกัน

ผลลัพธ์จากปัญหาดังกล่าวคือ ฟอร์มการเล่นของทั้งคู่ย่ำแย่ลง แม้เอ็มบัปเป้จะคว้าตำแหน่งดาวซัลโวยุโรปมาครองได้ในที่สุด แต่สถิติของเขาก็ลดลงเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อนหน้า ประสิทธิภาพในการทำประตูของเขาลดลงจาก 1 ประตูต่อ 88 นาที เป็น 1 ประตูต่อ 108 นาที และประสิทธิภาพในการมีส่วนร่วมกับการทำประตูลดลงจาก 1 ครั้งต่อ 72 นาที เป็น 1 ครั้งต่อ 97 นาที สถานการณ์ของวินิซิอุสก็คล้ายกัน: ประสิทธิภาพในการทำประตูลดลงจาก 1 ประตูต่อ 129 นาที เป็น 1 ประตูต่อ 211 นาที และประสิทธิภาพในการมีส่วนร่วมกับการทำประตูลดลงจาก 1 ครั้งต่อ 88 นาที เป็น 1 ครั้งต่อ 113 นาที เมื่อทั้งคู่อยู่ในสนามพร้อมกัน พวกเขากลับเล่นได้แย่ลง ข้อมูลเหล่านี้ยืนยันว่าคู่หูคู่นี้ไม่เข้ากันเลยจริง ๆ

ฟอร์มของวินิซิอุสที่ดิ่งลงอย่างมากเกิดขึ้นในช่วงท้ายฤดูกาล: เขายิงได้เพียง 1 ประตูจาก 11 นัดสุดท้ายของฤดูกาล ฤดูกาลของเขาอาจแบ่งได้เป็นสองช่วงคือ "ก่อนรางวัลบัลลงดอร์" และ "หลังรางวัลบัลลงดอร์" ช่วงแรกกินเวลาเพียงสามเดือน แต่เขามีส่วนร่วมถึง 36% ของการทำประตูทั้งหมดของทีม หลังจากค่ำคืนงานประกาศรางวัลบัลลงดอร์ ฟอร์มของเขาก็เริ่มหม่นหมองลงเรื่อยๆ และแทบไม่มีบทบาทใดๆ ในศึกฟุตบอลสโมสรโลกเลย

ตรงกันข้ามกับเอ็มบัปเป้โดยสิ้นเชิง ซึ่งเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยากลำบาก แต่กลับมาฟอร์มดีเยี่ยมในช่วงท้าย ใน 6 นัดสุดท้ายของฤดูกาล (นับตั้งแต่รอบชิงชนะเลิศโคปา เดล เรย์) เขายิงได้ถึง 10 ประตู ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงในช่วงท้ายฤดูกาลนี้เอง ทำให้เขาคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไปครองด้วยผลงาน 44 ประตู (โดยเป็น 31 ประตูในลีก) ผลงานโดยรวมสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของฟอร์มการเล่นของทั้งสองคน ในแง่ของการแข่งขัน พวกเขาก็เหมือนแม่เหล็กที่ผลักกัน: เมื่อคนหนึ่งส่องประกาย อีกคนก็มืดมิด และในทางกลับกัน

อีกหนึ่งข้อมูลที่ยืนยันประเด็นนี้คือ: จาก 68 นัดที่เรอัล มาดริดลงเล่น มีเพียง 8 นัดเท่านั้นที่ทั้งสองคนทำประตูได้พร้อมกัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาล ตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา พวกเขาทำประตูพร้อมกันได้เพียงสามนัดเท่านั้น: ในโคปา เดล เรย์กับเซลต้า บีโก้ เมื่อวันที่ 16 มกราคม, ในแชมเปี้ยนส์ลีกกับเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อวันที่ 22 มกราคม และในลาลีกากับราโย บาเยกาโน่ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม หลังจากเดือนมีนาคมก็ไม่มีการทำประตูร่วมกันอีกเลย

การหาวิธีทำให้เอ็มบัปเป้และวินิซิอุสเข้ากันได้จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ ชาบี อลอนโซ่ ต้องเผชิญ ก่อนหน้านี้เขาเคยสร้างความประทับใจด้วยการลองให้วินิซิอุสเล่นทางฝั่งขวาในเกมกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่การทดลองนี้กินเวลาสั้นมาก และดูเหมือนนักเตะเองก็ยังไม่คุ้นเคยกับตำแหน่งนั้น แทบไม่มีใครตั้งคำถามถึงความสามารถส่วนตัวของวินิซิอุสและเอ็มบัปเป้ รวมถึงพรสวรรค์ที่พวกเขามี แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้พวกเขาเล่นร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ในสนาม คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่สามารถสร้างความเข้าขาให้กับคู่หูคู่นี้ได้ ในฤดูกาลใหม่ อลอนโซ่จะพยายามรับมือกับความท้าทายนี้: สองอัจฉริยะ...ที่ไม่สามารถเข้ากันได้