โคตรหักมุม! สัญญาฉบับเดียวที่เปลี่ยนใจ นิโก้ วิลเลียมส์ จากบาร์ซ่าสู่ทีมรัก

ถ้าจะถามถึงดีลที่ทำให้แฟนบอลหลายคนต้องขยี้ตาคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของ นิโก้ วิลเลียมส์ ปีกความเร็วสูงจาก แอธเลติก บิลเบา ที่จู่ๆ ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัดไปแบบยาวๆ ถึง 10 ปีเลยทีเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือหนักมากว่าเขาจะย้ายไปซบ บาร์เซโลน่า เพื่อร่วมงานกับเพื่อนซี้อย่าง ลามีน ยามาล คำถามที่ตามมาทันทีคือ “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับทั้งสองสโมสรเปิดเผยกับเราว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้มีอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่เราเห็นเยอะครับ ต้องยอมรับว่า นิโก้ เองก็มีความต้องการที่จะย้ายไปเล่นในถิ่นคัมป์ นู จริงๆ และการเจรจาระหว่างเอเยนต์ของเขากับ เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬาของบาร์เซโลนาก็มีความคืบหน้าไปมากจนเกือบจะบรรลุข้อตกลงส่วนตัวได้แล้ว แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ดีลนี้ล่มไม่เป็นท่าคือเรื่องการเงินของสโมสรจากแคว้นกาตาลันที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตก

ปัญหาที่ว่านั้นก็คือ บาร์เซโลน่า ไม่สามารถให้ความมั่นใจกับทางนักเตะได้เลยว่าพวกเขาจะสามารถลงทะเบียนนักเตะใหม่ได้ทันที เนื่องจากกฎ Financial Fair Play ของลา ลีกา ที่เข้มงวดสุดๆ ทำให้ดีลนี้ต้องติดขัดและค้างคาอยู่แบบนั้นมาเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้ทางฝั่งของนิโก้และตัวแทนเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่คลุมเครือ

ในขณะที่บาร์ซ่ากำลังเจอปัญหาโลกแตกอยู่ อีกด้านหนึ่ง แอธเลติก บิลเบา ก็ไม่ได้อยู่เฉยครับ แหล่งข่าววงในระบุว่าผู้บริหารของทีมจากแคว้นบาสก์เริ่มเคลื่อนไหวแบบลับๆ ด้วยการยื่นข้อเสนอที่เรียกว่า “ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร” เป็นสัญญาที่ยาวนานถึงสิบปี และรับปากว่าจะให้ค่าเหนื่อยที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ที่สำคัญกว่านั้นคือ นิโก้ ยังจะได้ลงเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกร่วมกับพี่ชายอย่าง อินญากี้ วิลเลียมส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในความฝันสูงสุดของเขา

ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของบาร์ซ่าที่เหมือนรอคอยความหวังที่ริบหรี่ ในที่สุด นิโก้ ก็ตัดสินใจเลือกฟังเสียงหัวใจของตัวเองที่อยากเล่นให้กับสโมสรที่เขาเติบโตมา พร้อมกับความหวังที่จะได้สร้างประวัติศาสตร์ที่ซาน มาเมส กับแฟนๆ และครอบครัวของเขา ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ดีลย้ายทีมที่ยืดเยื้อจบลง แต่ยังเป็นการประกาศว่าเขามีความมุ่งมั่นที่จะอยู่กับทีมรักอย่างแท้จริง

การต่อสัญญาครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ แอธเลติก บิลเบา มีนักเตะตัวหลักอยู่กับทีมต่อไป แต่ยังทำให้ค่าฉีกสัญญาของเขาเพิ่มขึ้นอีกถึง 50% ทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ที่ต้องการตัวต้องคิดหนักมากขึ้นหากจะคว้าตัวเขาในอนาคต