ของดีที่ผีมองข้าม! ร็อบโบ้ชี้ แม็คทอมระเบิดฟอร์มเทพ หวังให้แมนยูเสียดาย

ย้อนกลับไปเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แฟนบอล "ปีศาจแดง" หลายคนอาจมองว่าการปล่อย แม็คโทมิเนย์ ให้กับนาโปลีด้วยค่าตัวราว 25 ล้านปอนด์ คือธุรกิจที่สมเหตุสมผล หลังจากที่มิดฟิลด์ลูกหม้อรายนี้ใช้เวลา 7 ปีวนเวียนอยู่กับการเป็นตัวจริงและตัวสำรองในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ใครจะไปคิดว่าการย้ายชายคามาสู่เมืองเนเปิลส์ จะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แข้งวัย 28 ปี พลิกบทบาทจาก "แข้งอะไหล่" ในโรงละครแห่งความฝัน สู่การเป็น "หัวใจในแดนกลาง" ของทัพอัซซูร่าภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ เขาระเบิดฟอร์มสะท้านลีกอิตาลีด้วยการมีส่วนร่วมกับประตูไปถึง 16 ครั้ง (ยิง 12, แอสซิสต์ 4) จากการลงเล่น 34 นัด สถิตินี้สุดยอดขนาดที่ว่า มีเพียง แอร์นาเนส ในปี 2010-11 เท่านั้นที่ทำได้ทาบเทียมในการเล่นเซเรีย อา ฤดูกาลแรกตลอด 20 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ประตู 12 ลูกของเขายังเป็นสถิติสูงสุดของกองกลางชาวสกอตแลนด์ใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป เทียบเท่ากับที่ ชาร์ลี อดัม เคยทำไว้กับแบล็คพูลในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2010-11
ประตูสุดท้ายของเขาในซีซั่น คือประตูตอกฝาโลงในเกมที่นาโปลีเอาชนะกายารี่ 2-0 ซึ่งเป็นเกมที่ส่งให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ไปครองอย่างสง่างาม ก่อนที่เจ้าตัวจะได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของลีกเป็นการการันตีความสำเร็จส่วนตัว
ในขณะที่กราฟชีวิตของแม็คโทมิเนย์พุ่งทะยานขึ้นฟ้า แต่กับต้นสังกัดเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง พวกเขาต้องเผชิญกับฤดูกาลที่น่าผิดหวัง จบเพียงอันดับที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นอันดับที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1973-74 ที่ทีมตกชั้น ซ้ำร้ายยังพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก ให้กับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ส่งผลให้ทีมปราชัยรวมทุกรายการไปถึง 20 นัด มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973-74 เช่นกัน
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายจากลิเวอร์พูล ได้ให้ทรรศนะถึงฟอร์มอันร้อนแรงของเพื่อนร่วมทีมชาติว่า การตัดสินใจของแม็คโทมิเนย์นั้นถูกต้องทุกประการ
"ผมคิดว่าเขาย้ายไปที่นั่นพร้อมกับความต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเอง" ร็อบโบ้กล่าว "เขาอยากจะพิสูจน์ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเห็นว่าพวกเขาคิดผิด และพิสูจน์ให้คนในพรีเมียร์ลีกได้เห็น ซึ่งเขาก็ทำมันสำเร็จอย่างสวยงาม นั่นคือเครดิตของเขา ทัศนคติ และความมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ตอนนี้เขาเป็นราชาอยู่ที่นั่นไปแล้ว"
"ตอนอยู่ที่แมนฯ ยูไนเต็ด เขาอาจจะไม่ได้รับโอกาสลงเล่นต่อเนื่อง ไม่ได้รับความเคารพเท่าที่ควร แต่พอเขาย้ายไป เขาก็สร้างฤดูกาลที่มหัศจรรย์และจบมันด้วยถ้วยแชมป์ลีก ซึ่งต้องให้เครดิตเขาเต็มๆ"
เรื่องราวของ "แม็คทอม" จึงเป็นบทพิสูจน์ชั้นดีว่า บางครั้ง...การปล่อยเพชรเม็ดงามหลุดมือไป อาจสร้างความเจ็บปวดให้แฟนบอลได้มากกว่าความพ่ายแพ้ในสนามเสียอีก และนี่คือคำถามที่เหล่าเร้ด เดวิลส์คงต้องขบคิดกันต่อไปในฤดูกาลหน้า
จาก:ข่าวฮอต
โพสต์ฮอต
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ: เชลซี vs ลอส แอนเจลิส เอฟซี
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : ฟลูมิเนนเซ่ อาร์เจ vs โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง vs แอตเลติโก้ มาดริด
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ: เรอัล มาดริด vs อัล ฮิลาล
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ: บาเยิร์น มิวนิค vs โอคแลนด์ ซิตี้
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ: อัล ไอน์ vs ยูเวนตุส