​กวาร์ดิโอล่าไม่รับประกันอนาคต ทำให้ไวร์ทซ์ปฏิเสธแมนเชสเตอร์ซิตี้

วันที่ 28 พฤษภาคม ตามรายงานจาก Bild สื่อดังของเยอรมนี ฟลอเรียน ไวร์ทซ์ ปฏิเสธข้อเสนอจากแมนเชสเตอร์ซิตี้ เนื่องจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ซิตี้ ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะคุมทีมต่อไปได้นานแค่ไหน

สี่ทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่าง เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ซิตี้ และลิเวอร์พูล ต่างก็ต้องการตัวไวร์ทซ์ แต่สุดท้ายเป็นลิเวอร์พูลที่กำลังจะได้ตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักของลิเวอร์พูล หรืออาจเป็นเพราะสโมสรอื่นๆพลาดโอกาสนี้ไป

เรอัล มาดริด พยายามชักชวนไวร์ทซ์ด้วยการบอกว่าเขาจะได้ร่วมทีมกับจู๊ด เบลลิ่งแฮม แต่กลับไม่น่าสนใจเท่าไหร่ ขณะที่บาเยิร์น มิวนิค แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าไวร์ทซ์เป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพ แต่กลับไม่เคยติดต่อกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อย่างเป็นทางการ

ส่วนแมนเชสเตอร์ซิตี้ ไวร์ทซ์ปฏิเสธข้อเสนอเนื่องจากการสนทนากับกวาร์ดิโอล่าในเดือนพฤษภาคม ที่กวาร์ดิโอล่าบอกว่าหวังให้ไวร์ทซ์มาแทนที่เดอ บรอยน์ แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะไม่สามารถทำสัญญาจนถึงปี 2027 ได้ หลังจากได้ยินเช่นนั้น ไวร์ทซ์จึงเลือกที่จะปฏิเสธแมนเชสเตอร์ซิตี้ ไม่ใช่เพราะแมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่ต้องการตัวเขา

การพบปะกับเยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ทำให้ไวร์ทซ์รู้สึกประทับใจ ครอบครัวไวร์ทซ์เดินทางไปอังกฤษเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ตามคำเชิญของลิเวอร์พูล และเขาก็ตัดสินใจในวันนั้นเลย

ไวร์ทซ์ไม่ต้องการสิ่งที่ดูหรูหรา เขาต้องการทีมที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขารักฟุตบอลมากกว่าแสงสีและความวุ่นวายในวงการฟุตบอล ความกระตือรือร้นของลิเวอร์พูลและคล็อปป์ ทำให้ไวร์ทซ์เชื่อมั่นว่าการย้ายไปลิเวอร์พูลคืออนาคตของเขา

บิดาของไวร์ทซ์ไม่ได้พยายามเปลี่ยนใจลูกชายหรือยอมจำนนต่อแรงกดดันจากบาเยิร์น มิวนิค แต่บิดาของไวร์ทซ์ได้ตั้งเงื่อนไขว่า ในฐานะน้องคนสุดท้องในครอบครัวที่มีพี่น้อง 10 คน ไวร์ทซ์ต้องพูดคุยกับทุกสโมสรที่สนใจ ไวร์ทซ์ทำตามคำแนะนำของพ่อและตัดสินใจตามความเชื่อของตัวเอง: ย้ายไปลิเวอร์พูล ปฏิเสธแมนเชสเตอร์ซิตี้ และปฏิเสธบาเยิร์น มิวนิค