เมสซีเผย โรนัลโด้คือแรงผลักดัน ยืนจุดสูงสุดร่วมกันนานกว่า 10 ปี

ลิโอเนล เมสซี เปิดใจผ่าน France Football ถึงความรู้สึกต่อหนึ่งในศึกแห่งยุคที่กลายเป็นตำนานของโลกลูกหนัง การต่อสู้สุดยิ่งใหญ่ระหว่างเขากับคริสเตียโน โรนัลโด้ ที่กินเวลานานกว่าทศวรรษ พร้อมยอมรับว่าทั้งคู่ “หล่อหลอมและผลักดันกัน” จนสามารถยืนหยัดบนจุดสูงสุดได้อย่างยาวนานกว่าคนอื่น

ศึกเมสซี vs โรนัลโด้ ไม่ใช่แค่การแข่งขันระหว่างสองสุดยอดนักเตะ แต่ยังเป็นการขับเคี่ยวที่สะท้อนการปะทะกันของสองมหาอำนาจลูกหนังแห่งสเปนอย่าง บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด ศึกเอล กลาซิโก้ ที่มีมากกว่าคำว่าดาร์บี้

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2008 จนถึง 2023 เมสซีและโรนัลโด้ช่วยกันกวาดรางวัลบัลลงดอร์รวมกันถึง 13 สมัย โดยเมสซีคว้าไป 8 ครั้ง ขณะที่โรนัลโด้ ได้ 5 ครั้ง สองคนผลัดกันขึ้นแท่นเจ้าลูกหนังโลกอย่างไม่มีใครทาบได้

"มันเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมในแง่ของกีฬา" เมสซีเผยผ่าน France Football
"ผมคิดว่าเราต่างก็ผลักดันกันและกัน เพราะเราต่างก็เป็นคนที่อยากชนะ อยากคว้าทุกแชมป์อยู่เสมอ"

"มันเป็นยุคทอง ไม่ใช่แค่สำหรับเรา แต่สำหรับแฟนบอลทั่วโลกด้วย เราควรได้รับเครดิตไม่น้อยกับการที่ยืนอยู่จุดนั้นได้นาน เพราะอย่างที่เขาพูดกัน มันง่ายที่จะไปถึงยอดเขา แต่ยากเหลือเกินที่จะอยู่บนนั้นให้นาน และเราทำได้ 10, 15 ปี... ผมเองยังไม่แน่ใจตัวเลขที่แน่นอน แต่มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด ๆ สำหรับทุกคน"

แม้ปัจจุบัน ทั้งคู่จะย้ายออกจากเวทีหลักของยุโรป โดยเมสซีมาโลดแล่นในเมเจอร์ลีกกับอินเตอร์ ไมอามี ขณะที่โรนัลโด้ข้ามไปโชว์ลีลาในซาอุฯ กับอัล นาสร์ แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า “เมสซี vs โรนัลโด้” คือบทบันทึกสุดอมตะของวงการฟุตบอล

รางวัลบัลลงดอร์ปีล่าสุด (2023) ตกเป็นของเมสซีจากความสำเร็จพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลกในกาตาร์ นั่นอาจเป็นสัญญาณปิดฉากยุคของสองมหาเทพ พร้อมเปิดประตูต้อนรับคลื่นลูกใหม่อย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ หรือแม้แต่ ลามีน ยามาล ที่เพิ่งแจ้งเกิดในเวทีเอล กลาซิโก้

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ก้าวขึ้นมารับช่วงต่อในมหากาพย์คู่ปรับลูกหนัง คนเหล่านั้นต้องเตรียมใจไว้เลย เพราะสิ่งที่เมสซีและโรนัลโด้ฝากไว้ ไม่ใช่แค่จำนวนประตูหรือถ้วยรางวัล แต่คือแรงบันดาลใจที่ส่งต่อถึงคนดูทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ และอาจไม่มีใครทำได้แบบนั้นอีกในเร็ววัน.