​อันเก้ ปอสเตโคกลู: คูลูเซฟสกี้เจ็บเท้าแต่ไม่รุนแรง

วันที่ 7 มีนาคม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จะพบกับอาแซด อัลค์มาร์ ในเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูโรปาลีก ก่อนเกม อันเก้ ปอสเตโคกลู หัวหน้าผู้ฝึกสอนท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้เข้าร่วมการแถลงข่าว

สถานการณ์ล่าสุดของทีมเป็นอย่างไร ใครไม่ได้เดินทางไปด้วย?

สำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย...เดยัน คูลูเซฟสกี้ เป็นคนเดียวที่ไม่ได้มา เขาได้รับบาดเจ็บที่เท้าเล็กน้อย จริงๆ แล้วตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เท้าของเขาเจ็บอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังสามารถฝึกซ้อมและลงแข่งได้ และยังรับมือได้ แต่สถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้น เราจึงตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เรายังคงรอผลการตรวจบางส่วนเพื่อยืนยันความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ แต่เขาน่าจะไม่กลับมาลงสนามได้ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ อาการบาดเจ็บไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรืออะไรทำนองนั้น แต่เขาไม่ได้เดินทางไปด้วย เบน เดวิส ใกล้จะกลับมาแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ที่สนามฝึกซ้อมเพื่อฟื้นฟูร่างกายร่วมกับริชาร์ลิซอน และคนอื่นๆ

โรเมโร, ฟาน เดอ เวน และโซลันเก้ จะได้ลงเป็นตัวจริงในวันพรุ่งนี้หรือไม่?

ต้องรอดูกัน วันนี้เราจะฝึกซ้อม แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ลงสนามมาเป็นเวลานาน ดังนั้นเราต้องดูกันอีกทีในเรื่องของการให้พวกเขากลับมาลงสนาม แต่พวกเขาทั้งหมดมาฝึกซ้อมที่นี่ในวันนี้ และเราจะตัดสินใจหลังจากนี้

คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการที่ทีมชาติอาร์เจนตินาเรียกตัวโรเมโร?

มันน่าสนใจ ผมอยู่ในวงการฟุตบอลมา 26 ปี และเคยเป็นโค้ชทีมชาติ เรารู้กฎดีว่าสโมสรไม่สามารถแทรกแซงเรื่องของฟุตบอลทีมชาติได้ ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้ ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงกลายเป็นปัญหาทุกครั้ง แม้ว่านักเตะจะบาดเจ็บ ทีมชาติก็ยังสามารถเรียกตัวเขาได้

ดังนั้นในมุมมองของเรา มันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล เราให้ความสำคัญกับการทำให้เขากลับมาฟิตและกลับมาลงสนาม หวังว่าเขาจะได้มีเวลาลงเล่นบ้าง ถ้าเขาฟิต เขาก็ควรจะได้ลงเล่น สะสมเวลาลงเล่น ไม่ใช่ไม่ได้ลงเล่นสองสัปดาห์ เกี่ยวกับเรื่องทีมชาติ มีหลายคนถามผมในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา รู้สึกเหมือนพวกเขาไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ ฟุตบอลทีมชาติเป็นแบบนี้ สโมสรไม่สามารถควบคุมการไปของนักเตะได้

คุณต้องมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เขาควรจะลงเล่นหรือไม่?

มันจะมีประโยชน์อะไร?

เป็นเพราะคุณต้องการปกป้องเขาหรือเปล่า?

ก็ตามนั้น แต่ถึงผมจะแสดงความคิดเห็นออกไป มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ สุดท้ายแล้ว ถ้าเขาฟิต การได้ลงเล่นหลายๆ เกมก็เป็นผลดีกับเรา เพราะเขาพลาดการแข่งขันไปเยอะ เราไม่สามารถตัดสินใจได้ว่านักเตะควรจะไปกับทีมชาติหรือไม่ ผมไม่เคยทำแบบนั้น นี่คือสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอดอาชีพการงาน และจะไม่เปลี่ยนแปลง

ฟาน เดอ เวน หายดีแล้วหรือยัง?

"หายดีแล้ว"? ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่เขากำลังฝึกซ้อมอยู่ เรายังจำได้ว่าครั้งที่แล้ว แม้ว่าเขาจะหายจากอาการบาดเจ็บและลงเล่นครึ่งเกม แต่ทั้งเราและตัวเขาเองก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นครั้งนี้เราจึงใช้วิธีการฟื้นฟูที่แตกต่างออกไป ตอนนี้เขารู้สึกดีมาก เขาฝึกซ้อมกับเรามาหนึ่งสัปดาห์ครึ่งแล้ว สภาพร่างกายดีมาก ผมคิดว่าตอนนี้สำคัญที่จังหวะเวลา และวิธีที่เราจะจัดการให้เขากลับมาลงสนาม

เราอาจจะประเมินสถานการณ์ตามความรู้สึกของเขาหลังจากที่เขาได้ลงเล่น แต่จากการฝึกซ้อม ผลงานของเขาในการฝึกซ้อม และความรู้สึกของเขาเอง เขามั่นใจมากว่าเมื่อเขากลับมาที่ทีม เขาจะกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

ต้นสัปดาห์นี้ บิสซูม่า ไปที่สกีรีสอร์ท คุณให้พวกเขาหยุดพักหรือ?

เอาจริงดิ นี่มันคำถามอะไรเนี่ย? ผมไม่ได้ให้หยุดพักนะ ตอนนั้นเรากำลังฝึกซ้อมอยู่ แต่เขาตัดสินใจไปเล่นสกี... เอาเถอะเพื่อน อย่าถามคำถามแบบนี้!

ถ้าเขาไปเล่นสกีจริงๆ คุณคิดอย่างไร?

เพื่อน ผมไม่กังวลเรื่องพวกนี้หรอก พวกเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีชีวิตของตัวเอง พวกเขามีเวลาพักผ่อนสองสามวัน วิธีที่พวกเขาจะใช้เวลาเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันต่อไปเป็นทางเลือกของพวกเขาเอง คุณหวังว่าพวกเขาจะฉลาดในเรื่องเหล่านี้ ทำทุกอย่างให้เหมาะสมกับตัวเอง แต่ผมไม่กังวล และตอนนี้เขาก็อยู่ในสภาพที่ดี

การแข่งขันรายการนี้ดูเหมือนจะเหมาะกับสเปอร์ส และในอดีตก็เป็นเช่นนั้น คุณคิดว่านี่เป็นโอกาสของคุณหรือไม่?

ผมไม่ค่อยเข้าใจว่า "โอกาสของผม" หมายถึงอะไร แต่มันเป็นการแข่งขันที่เราต้องการประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ดี เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว ต่อไปต้องเจอกับสองเกมที่ยากลำบากกับอาแซด อัลค์มาร์ นี่คือความท้าทายแรกที่ต้องเอาชนะให้ได้ คุณพูดถูก สโมสรทำผลงานได้ไม่ดีนักในรายการนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่นี่เป็นรายการสำคัญของยุโรป เราเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย สำหรับเรานี่คือโอกาส มาดูกันว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน

เทียบกับช่วงต้นฤดูกาล ตอนนี้คุณมั่นใจมากขึ้นหรือไม่ว่าทีมนี้จะไปได้ไกลในรายการนี้?

ยากที่จะพูด แน่นอนว่าช่วงต้นฤดูกาลเรามั่นใจในสภาพทีมและอนาคต แต่เห็นได้ชัดว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราหวัง คุณไม่มีทางรู้ได้เลย แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยร่วมกัน ผู้เล่นคนสำคัญกลับมา และมีโอกาสฝึกซ้อมร่วมกัน ซึ่งมีค่ามากสำหรับเรา ผมคิดว่าช่วงพักนี้ การมาของผู้เล่นใหม่ การจัดการเวลาพักผ่อนที่เหมาะสม และตารางการแข่งขันที่ดีขึ้น ทำให้เราอยู่ในสภาพที่ดี เพื่อรับมือกับความท้าทายข้างหน้า อย่างน้อยก็ในมุมมองนี้

ประมาณเดือนที่แล้ว เรายังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขาดแคลนผู้เล่นและการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บเป็นไปอย่างช้าๆ ดังนั้นในมุมมองของเรา สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมามีประโยชน์มากสำหรับการฝึกซ้อม การฟื้นตัว และการเพิ่มความเข้มข้นในการเตรียมความพร้อม

ทุกคนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับมิกกี้ (ฟาน เดอ เวน) และคริสเตียน (โรเมโร) เมื่อคุณให้พวกเขากลับมาลงสนาม ไม่มีเกมที่ช้าลงเพื่อให้พวกเขาค่อยๆ กลับสู่ฟอร์มการเล่นหรือ?

ผมไม่เคยคิดแบบนั้น ผมไม่รู้ว่าเกมที่ช้าลงคืออะไร นักเตะทุกคนรู้ดีว่าเมื่อลงสนามแล้วต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าพวกเขาพร้อมแล้ว สำหรับเรา ผมรู้สึกเสมอว่าวิธีการฝึกซ้อมของเราเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน เป็นการเตรียมตัวที่ดีที่สุดสำหรับสไตล์การเล่นของเรา การที่โรเมโร, ดอม (โซลันเก้) และมิกกี้ สามารถเข้าร่วมการฝึกซ้อมด้วยความเข้มข้นแบบที่เราทำเป็นประจำ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผม แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับจังหวะของเกมได้หรือไม่

คุณรู้สึกไหมว่าทีมมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ไม่ใช่เพื่อหักล้างข้อสงสัยจากภายนอก แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในช่วงท้ายฤดูกาล?

ใช่ ผมคิดว่าพูดได้เลยว่าผู้เล่นทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรา ผมคิดว่าพวกเขาเข้าใจว่าเพื่อนร่วมทีมที่ลงเล่นตลอดเวลามีโอกาสได้ฟื้นตัว ฝึกซ้อม และเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เห็นเพื่อนร่วมทีมหายจากอาการบาดเจ็บและกลับมา เช่น วิคาริโอ, เบรนแนน และแมดดิสัน แน่นอนว่ารวมถึงวิลสัน (อูโดเบอร์), เดสตินี่ (อูโดกี้) พวกเขากลับมาด้วยความกระหาย ต้องการช่วยทีม เพราะผมคิดว่าพวกเขานั่งอยู่ข้างสนาม เห็นเพื่อนร่วมทีมที่ลงเล่นอย่างยากลำบาก พวกเขารู้สึกกังวล พวกเขาต้องการช่วยเหลือมาตลอด และในที่สุดก็มีโอกาส และผมรู้สึกได้ถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทีม พวกเขารู้สึกได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือ นี่เป็นพื้นฐานให้กับเรา หวังว่าเราจะกลับมาเล่นในสไตล์ของเราได้ มาดูกันว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน

การกดดันกองเชียร์เจ้าบ้านตั้งแต่เนิ่นๆ ในวันพรุ่งนี้มีความสำคัญหรือไม่?

ใช่ มันจะเป็นความท้าทายที่ยากลำบาก พวกเขา (อาแซด อัลค์มาร์) ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในครั้งที่แล้ว ก่อนหน้านี้เราเคยเล่นเป็นทีมเยือนกับกาลาตาซาราย ซึ่งเป็นทีมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในรายการยุโรป แต่กุญแจสำคัญในเกมนั้นอยู่ที่ผลงานในบ้านของอาแซด อัลค์มาร์ การเจอกับพวกเขาในคืนพรุ่งนี้ เราต้องทำให้แน่ใจว่าไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร เรายังมีโอกาสกลับไปเล่นในบ้านและชนะในสองเลก เรารู้ว่ามีเสียงเชียร์จากแฟนบอลเจ้าบ้าน ผมเคยลงเล่นในยูโรปาลีกกับเซลติก ดังนั้นผมจึงเข้าใจสถานการณ์นี้ และอาแซด อัลค์มาร์ เป็นทีมที่ดี แต่เราต้องมั่นใจว่าจะเล่นในสไตล์ของเรา ควบคุมจังหวะของเกม และรับประกันว่าจะกลับบ้านพร้อมผลการแข่งขันที่ดี