ฝีเท้าดี มีประกันสุขภาพ! 'น้องนาวินAmitylight' ยอดทีมบอลเดินสาย รวมตัวตึงจากแดนใต้

ทำความรู้จักน้องนาวินAmitylight' ยอดทีมบอลเดินสายที่มาจากการรวมตัวแข้งตัวตึงจากแดนใต้
ถ้าคุณเป็นคอบอลเดินสายและโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนใต้ ไม่มีทางที่คุณจะไม่รู้จัก "น้องนาวินAmitylight" ทีมที่เคยฟาดรางวัลเงินแสนมาแล้ว
สิทธิชัย นาคา หรือ "น้อง" หนุ่มใต้จากเมืองคอน ที่เข้ามาเรียนและทำมาหากินเป็นวิศกรในกรุงเทพ และ ภูมิใจ จิตภักดี หรือ "โจ๊ก" รวมตัวสร้างทีมนี้ขึ้นมาจากกลุ่มแข้งใต้พลัดถิ่น ที่รักกันเหมือนครอบครัว รวมตัวกันทุกสัปดาห์
นอกจากนี้นักเตะของพวกเขา "มีประกันสุขภาพ" เป็นหนึ่งในสวัสดิการของทีม อะไรคือแรงผลักดันให้พวกเขาสร้างทีมมาถึงจุดนี้ เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน
ทีมฟุตบอลเดินสายที่ก่อตั้งมาประมาณ 12 ปีที่ เดิมทีใช้ชื่อ "น้องนาวิน”ตามชื่อของลูกชายพี่น้อง ก่อนจะมาเจอกับทีมของกลุ่มคนใต้อีกทีมที่ชื่อว่า "Amitylight" ที่ดูแลทีมโดน "โจ๊ก" และด้วยความที่ทั้ง 2 ทีม และทั้ง 2 ผู้ดูแลทีมมีแนวคิดตรงกัน การรวมทีมของกลุ่มแข้งแดนใต้จึงเกิดขึ้น
โดย "น้อง" ที่ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมเล่าว่า เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในยุคนั้นเข้ามาทำงานเป็นวิศวกร และเริ่มมีความคิดที่ว่าในเมื่อเราชอบเล่นฟุตบอล และพื้นที่แถว ๆ ที่เราอยู่(ลาดพร้าว 107 และรามคำแหง) ก็มีพี่น้องชาวใต้อยู่รวมกันมากมาย จึงเริ่มคิดจะทำทีมฟุตบอลขึ้นมา เพื่อเป็นเหมือนกิจกรรมรวมตัว ทำให้เหล่าคนใกล้บ้านได้รู้สึกอบอุ่นเหมือนมีญาติ มีครอบครัวอยู่ใกล้ ๆ ... แม้ ณ เวลานั้นวงการบอลเดินสายจะแตกต่างจากที่เป็นอยู่ในเวลานี้โดยสิ้นเชิงก็ตาม
"ฟุตบอลเดินสายสมัยก่อนแตกต่างแบบสุด ๆ เลย การแข่งแบบวันเดียวจบ และปัญหามากมายสารพัดทั้งการจัดการ ระบบการแข่งขัน การเล่นนอกเกมแบบน่าเกลียดสไตล์บ้านใครบ้านมัน แต่ด้วยความที่ผมชอบฟุตบอล ผมพยายามที่ไม่ยอมแพ้ ผมรวมตัวน้อง ๆ ที่เป็นคนใต้ในพื้นที่ เข้ามาเล่น และพวกเรามีกฎเหล็กเสมอว่า "เราจะไม่เล่นฟุตบอลอย่างคนเกเร”เราจะไม่เตะใครด้วยความคิดที่จ้องจะทำร้ายเด็ดขาด"
"พวกเราเจอพยายามหาทางมาเจอกันทุกสัปดาห์ เราอยู่กันเหมือนครอบครัวจริง ๆ ตั้งแต่วันแรก เวลาไปแข่งทีไหน ผมไม่เคยเอาเงินรางวัลเข้าตัวเอง แม้จะเป็นเงินน้อยนิด แต่ผมก็ยกให้กับน้อง ๆ ในทีมทั้งหมด ค่ารถ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าสนาม ค่าส่งทีม ผมเป็นคนจัดการเอง"
"ด้วยการที่เรารวมตัวกัน เรามีคนจากหลากหลายสายงานอาชีพ เราเอาจุดแข็งของแต่ละคนมาพัฒนาทีม เช่นเรามีคนที่เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬา เขาก็จะเอาเรื่องการดูแลความฟิต รักษาร่างกายมาแนะนำ หรือใครถนัดแบบไหน ก็จะเอาสิ่งที่ตัวเองถนัดมาวยหรือแบ่งปันกันเสมอ"
"ทีมเราไม่เคยจ้างโค้ชเลย ทุกอย่างเกิดจากความช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และเราจะสร้างฟุตบอลในแบบของตัวเองขึ้นมาให้ได้ เราตั้งใจจะทำให้เราเป็นกลุ่มเด็กใต้ สามารถดวลกับทีมแข็ง ๆ ในเมืองกรุงได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้วยสไตล์บ้าน ๆ แบบที่พวกเราเป็นกันมาเสมอ"
"เราทำทีมฟุตบอลโดยอิงสไตล์การครองบอลและต่อบอลกับพื้นเป็นหลัก ฟุตบอลเดินสายอาจจะเดินทางจากหลังไปหน้าทำให้เกมเร็วตลอด แต่พวกเราเป็นทีมที่พยายามที่จะเล่นตามจังหวะ เราคิดเสมอว่า คงจ้อง ต้องได้เปรียบกว่า คนระวัง"
"เราได้ครองบอล เราจะรอโอกาสที่เหมาะเจาะเราจึงจะเข้าทำไร ซึ่งแนวทางแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเราช่วยกันฝึก ช่วยกันดีไซน์ออกมาให้เป็นสไตล์เฉพาะตัวของทีม ๆ นี้มาเสมอ"
"ซึ่งถ้าจะเจาะให้ลึกลงไปอีกสิ่งที่มันทำให้เกิดวิธีการเล่นแบบนี้ได้ อาจเพราะพวกเรามีกฎเหล็ก ที่ผมกับโจ๊ก(ผู้จัดการทีมร่วม) ตกลงร่วมกันนั่นคือ ตราบใดที่เราเล่นด้วยกัน เราจะไม่เล่นแบบเกเรเด็จขาด เราจะไม่ทะเลาะนอกเกม ไม่ทะเลาะกันเอง ไม่ทำให้คนในทีมเสียกำลังใจ หรือเสียกับส่วนร่วม ... ความสามัคคีและอยู่กันแบบครอบครัว คือปรัชญาที่สำคัญมากของทีม "น้องนาวินAmitylight" เลยครับ"
ด้วยสิ่งมที่เขากล่าวมา เขาไม่ได้กล่าวแค่ลอยสำหรับคำว่า "ครอบครัว" เพราะนักเตะในทีม "น้องนาวินAmitylight" นั้น จะได้รับการทำประกันสุขภาพให้แบบฟรี ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ เวลาเจ็บก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา ซึ่งเงินส่วนนี้ก็เจียดมาจากเงินรางวัลที่ทีมทำได้ในการแข่งขันรายการต่าง ๆ
นอกจากประกันสุขภาพแล้ว ยังมีการซื้อรองเท้าใหม่ ๆ หรือช่วยเหลือเรื่องอื่น ๆ นอกสนามด้วย ... เรียกได้ว่าทีม "น้องนาวินAmitylight" ไม่ใช่แค่สอนฟุตบอลเท่านั้น แต่พวกเขายังสอนชีวิต ให้น้อง ๆ ในทีมได้เติบโตมาเป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้ และมีความเป็นมืออาชีพทุกด้าน ทั้งในและนอกสนาม โดยพี่น้อง พูดถึงข้อนี้ว่า
"การรวมเป็น 1 ของกลุ่มชาวใต้คือความภูมิใจอีกข้อหนึ่งของผมนอกจากเรื่องของการเป็นแชมป์รายการไหน ๆ ที่นี่เราเหมือนกับอคาเดมี่ของทีมบอลเดินสาย ที่ให้โอกาสคนที่อยากเล่น และตอบแทนความพยายามของพวกเขาให้เต็มที่ที่สุด"
"วันไหนที่เด็ก ๆ น้อง ๆ ของผมได้ดี มีทีมมาติดต่อ ผมไม่เคยห้ามหรือรั้งไว้ ผมยินดีมากที่จะให้พวกเขาออกไปเติบโตกับทีมที่ใหญ่กว่า มีเงินจ้างในแบบของทีมเดินสายอาชีพ นั่นคือความภูมิใจจริง ๆ ของผม"
"ในวันที่พวกเขาต้องออกไปเล่นกับทีมอื่น ๆ ผมย้ำเรื่องความรับผิดชอบต่อหน้าที ตรงต่อเวลา เมื่อคุณเป็นมืออาชีพ คนมีค่าจ้าง และเขาจ้างคุณไปเพื่อทำผลงาน จงอย่าเอาเปรียบนายจ้าง เล่นให้เต็มที่ มีระเบียบวินัย ไม่ว่าจะเรื่องการตรงต่อเวลา หรือเรื่องใด ๆ ก็ตาม จงอยู่ในกฎของที่นั้น ๆ ให้ได้"
"ผมบอกน้อง ๆ ว่าถ้าเราทำดี มีผลงาน เราจะได้รางวัลตอบแทนเสมอ แต่ก็ที่จะไปถึงจุดนั้นไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ต่างก็เหมือนกันหมด นั่นคือก่อนที่คุณจะได้อะไรกลับมา คุณต้องทำตัวเองให้พร้อมที่สุด และคู่ควรกับสิ่งนั้นเสมอ"
"ไม่ใช่แค่คนที่ประสบความสำเร็จไปเล่นอาชีพทั้งในไทยลีกหรือในฟุตซอลลีกเท่านั้นที่เคยผ่านทีมผมไป ... น้อง ๆ คนอื่น ๆ ในทีมผมก็สอนตลอด เรื่องการดูแลตัวเองให้ดี รักษาร่างกายให้ความสำคัญกับมันเป็นอันดับ 1 เพราะฟุตบอลไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต คุณแข่งบอลเสร็จ พรุ่งนี้คุณก็ต้องทำงาน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือจงมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ... นี่แหละคือหัวใจของทีม "น้องนาวินAmitylight" ที่พวกเราภูมิใจกันอย่างที่สุดแล้ว"
พวกเขาใจนักเลง แต่เป็นสุภาพบุรุษในสนาม นั่นคือคำจำกัดความของทีม ๆ นี้
และในรายการ Mansion Sports 7 by 7 Cup .. วันที่ 1 ธันวาคม ที่สนาม Super Star Arena ลาดพร้าว 80 "น้องมาวินAmitylight" จะลงแข่งขันในรายการนี้ และมีการยืนยันว่าพวกเขาจะจัดเต็มให้สมกับเป็นทีเด็ดแดนใต้ เพื่อหวังถึงแชมป์ในรายการนี้
ถ้าคุณอยากเห็นฝีไม้ลายมือของพวกเขา ... อย่าลืม! คุณสามารถชมการถ่ายทอดสดได้ทาง Mansion Sports Thailand, KOOL Supporters ซอยมังกร Think Curve - คิดไซด์โค้ง และ GOAL Thailand ตลอดทั้งรายการ
จาก:ข่าวฮอต
TAG
ข่าวฟุตบอล
โพสต์ฮอต
-
เจลีก ญี่ปุ่น: คาชิวะ เรย์โซล เปิดบ้านถล่ม เกียวโต ซังงะ
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ: ฟลาเมงโก vs เชลซี
-
ศึกสุดท้าย NBA Finals: 2 ทีม, 1 เกม, 1 ถ้วยรางวัล. เพเซอร์ส บุก ธันเดอร์ ชี้ชะตาแชมป์
-
ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ - อินเตอร์ ไมอามี ซีเอฟ 2-1 ปอร์โต้
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ: บาเยิร์น มิวนิค vs โบคา จูเนียร์ส
-
ส่องภาพแซ่บ ๆ มิซึคาวะ จุน ก่อนประกาศแขวนเต้า อำลาวงการหนัง