ระฆังเปิดฉากพรีเมียร์ลีก

สำหรับในศึกคอมมูตี้ชิลด์ 2024 นั้นจะเป็นการพบกันระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน กับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นเกมดาร์บี้แมตช์แมนเชสเตอร์ ในเวอร์ชันลูกหนังการกุศล
แต่เชื่อว่าเกมนี้จะใส่กันเดือดระอุสวนทางกับเกมลูกหนังการกุศลแน่นอน โดยเฉพาะแมนฯ ซิตี้ ที่ค่อนข้างเน้นเป็นพิเศษเพื่อแก้แค้น แมนฯ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมือง หลังโดนทำเจ็บแสบชวดแชมป์เอฟเอ คัพ มาเมื่อฤดูกาลก่อน
ย้อนกลับไปในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาในรอบชิงชนะเลิศทางแมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าทางแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่หลายขุม ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพทีมที่สมบูรณ์สุดๆ ฟอร์มการเล่นที่กำลังร้อนแรงหลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนั้นจบอันดับ 8 ของตาราง แถมสภาพทีมก็ค่อนข้างพิการกองหลังตัวหลักเจ็บกันเกือบหมด
แต่พอเล่นไปเล่นมาเป็นทางแมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าเยอะ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำไปก่อน 2-0 จากฝีเท้าของอเลฮานโดร การ์นาโช นาทีที่ 30 และค็อบบี ไมนู นาทีที่ 39 ก่อนจะเป็น เฌเรมี โดกู มาตีไข่แตกในนาทีที่ 87 แต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม แมนฯ ซิตี้ พ่ายแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 1-2 อดทำดับเบิลแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับคอมมูนิตี้ชิลด์ ครั้งนี้ถือว่าเป็นหนที่ 102 เข้าไปแล้ว โดยทีมที่ลงเล่นในรายการนี้มากที่สุดและคว้าแชมป์มากที่สุดก็คือ “ปิศาจแดง” ที่คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 21 ครั้ง และเป็นแชมป์เดี่ยวๆ 17 ครั้งด้วยกัน รองลงมาเป็น “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 17 ครั้ง และเป็นแชมป์เดี่ยวๆ 16 ครั้งด้วยกัน
ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ลิเวอร์พูล ที่คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 16 ครั้ง ได้แชมป์เดี่ยวๆ 11 ครั้งด้วยกัน ส่วนอันดับ 4 ก็เป็นเพื่อนร่วมเมืองเมอร์ซีย์ไซด์ของ “หงส์แดง” อย่างเอฟเวอร์ตัน คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 9 ครั้งและคว้าแชมป์เดี่ยว 8 ครั้งด้วยกัน ด้านแมนฯ ซิตี้ ลงเล่นรายการนี้ไป 6 ครั้ง และคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด
ความเคลื่อนไหวของทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ ลงเตะอุ่นเครื่องไปทั้งหมด 4 นัด ชนะเพียงแค่นัดเดียว เสมอ 1 นัด และแพ้ถึง 2 นัดด้วยกัน แต่อย่างไร ก็ตามแทบจะวัดผลไม่ได้เพราะเป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่เลือดกระทิง แทบไม่มีผู้เล่นตัวหลักๆให้ใช้งานเลยเพราะบางคนอยู่ในช่วงพักหลังกรำศึกหนักในศึกยูโร 2024 และโคปา อเมริกา 2024 มา
โดยในเกมนี้ แมนฯ ซิตี้จะขาดตัวหลักอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, ฟิล โฟเดน และ โรดรี ที่ยังไม่กลับมาจากพักร้อนหลังต้องเล่นในรอบชิงชนะเลิศยูโร 2024 มาหมาดๆ
ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่ตัวหลักๆ กลับมาสู่ทีมเกือบครบหมดแล้วเหลือเพียงแค่ค็อบบี ไมนู และอเลฮานโดร การ์นาโช ที่ต้องลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร 2024 และ โคปา อเมริกา 2024 เท่านั้น แต่กลับมีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บทั้งเลนี โยโร และราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ต้องพักยาว
แต่เราจะไม่ได้เห็นนักเตะตัวท็อปบางรายของทั้งสองทีม แต่เชื่อว่าที่เหลืออยู่ก็ไม่ธรรมดา สตาร์ดังก็อยู่กันครบทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, เออร์ลิง ฮาแลนด์ นำทัพ “เรือใบสีฟ้า” ส่วนทาง “ปิศาจแดง” มี มาร์คัส แรชฟอร์ด, คาเซมิโร, จาดอน ซานโช นำทีม
ในศึกคอมมูนิตี้ชิลด์ 2024 นั้นเปรียบเสมือนการรีแมตช์รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ไปแบบกลายๆ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นแค่เกมการกุศล แต่รับรองว่าชื่อระดับ “เรือใบสีฟ้า” กับ “ปิศาจแดง” เจอกันเมื่อไรหวดกันไฟแลบแน่นอน!!
ขอบคุณแหล่งข่าวจาก thairathsport
จาก:ข่าวฮอต
โพสต์ฮอต
-
เดอบรอยน์ย้ายซบ นาโปลี แบบไม่มีค่าตัว เซ็นสัญญา 2+1 ปี
-
อาร์เซนอลยื่นข้อเสนอ 65 ล้านยูโรขอซื้อ วิคตอร์ โยเคเรส แต่ยังต่ำกว่าที่สปอร์ติ้ง ลิสบอนต้องการ
-
พรีวิวการแข่งขันระหว่าง คาชิม่า แอนท์เลอร์ส พบ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง vs แอตเลติโก้ มาดริด
-
พรีวิวฟุตบอล ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ: เชลซี vs ลอส แอนเจลิส เอฟซี
-
กาลาตาซารายยื่นข้อเสนอ 30 ล้านยูโร พร้อมค่าเหนื่อยปีละ 10 ล้านยูโร ขอซื้อ ฮาคาน ชาลาโนกลู