“เลสเตอร์” คัมแบ็ก

หายใจโล่งเสียทีสำหรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ หลังจากทำเป้าหมายของตัวเองได้สำเร็จนั่นก็คือการกลับไปเล่นบนพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในฤดูกาลหน้า หลังจากที่ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด คู่แข่งที่แย่งตั๋วขึ้นชั้นพลาดท่าพ่ายควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ไปยับเยิน 0-4 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

เมื่อ ลีดส์ สะดุดในเกมดังกล่าวกลายเป็นถวายตั๋วเลื่อนชั้นไปให้กับ “จิ้งจอกสยาม” ได้สิทธิ์ไปลุยพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2024-2025 ทันที เพราะหลังจบเกมดังกล่าว “ยูงทอง” มีแต้มตามหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 4 แต้ม แต่เหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่นัดเดียว ทำให้ เลสเตอร์ การันตีจบซีซัน 2 อันดับแรกซึ่งเป็นโควตาเลื่อนชั้นอัตโนมัติแน่นอนแล้ว

เรียกได้ว่าเป็นการกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้นหลังจากก่อนหน้านี้ “จิ้งจอกสยาม” ร่วงตกชั้นมาเล่นในแชมเปียนชิป เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

แต่ก่อนที่จะเลื่อนชั้นได้นั้นก็เรียกว่าสาวก “เดอะ ฟ็อกซ์” ก็ต้องใจหายใจคว่ำในช่วง 2 เดือน ที่ผ่านมา

โดยก่อนลงเล่นฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์และซิวตั๋วเลื่อนชั้นไปได้แบบไม่ลำบากยากเย็น เพราะขุมกำลังโดยรวมเหนือกว่าแทบทุกทีม เนื่องจากขุมกำลังหลักก็อยู่กันเกือบครบไม่ว่าจะเป็น เจมี วาร์ดี, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, แฮร์รี ชูตตาร์, ฮัมซา เชาด์ฮูรี, ริคาร์โด เปร์เรรา, วิลเฟร็ด เอ็นดีดี, คาเลชิ อิเฮียนาโช, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, เวาท์ ฟาเอส และคีแนน ดูร์บิวรี-ฮอลล์ อยู่กันพร้อมหน้า แถมยังได้ แฮร์รี วิงส์ และอับดูล ฟาตาวู มาเสริมทัพอีก

และก็เป็นไปตามคาดเมื่อ 14 นัดแรก เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้นัดเดียวที่เหลืออีก 13 เกมชนะรวด หลังจากนั้น ก็เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ และทำแต้มห่างอันดับ 2 มากสุดประมาณ 13 แต้มเลยทีเดียว

ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะง่าย แต่อยู่ดีๆ “จิ้งจอกสยาม” เครื่องช็อตไปดื้อๆ นับตั้งแต่ผ่านวันแห่งความรักมา โดย 10 นัด เลสเตอร์ แพ้ถึง 6 นัด เสมอ 1 นัด และชนะ 3 นัด ทำให้จากแต้มที่นำห่างก็กลับกลายมาเป็นคู่คี่สูสี และสุดท้ายก็โดนแซงจนได้

โดยสถานการณ์ในตอนนั้นมี อิปสวิช, เลสเตอร์ ซิตี้ และลีดส์ ที่พัวพันกันอยู่มีแต้มห่างกันแค่แต้มเดียว 3 ทีม ลุ้นตั๋ว 2 ใบต้องมีคนอกหัก

แต่ยังโชคดีที่ เอ็นโซ มาเรสกา กุนซือชาวอิตาเลียน ได้ปลุกใจให้แข้ง “เดอะ ฟ็อกซ์” กลับมาคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้งใน 2 เกมที่ยาก คือเอาชนะ เวสต์บรอมวิช และเซาแธมป์ตัน 2 ทีมที่ลุ้นตำแหน่งเพลย์ออฟไปได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เจอทีมท้ายตารางแพ้ซะงั้น

จากชัยชนะ 2 นัดดังกล่าวทำให้เลสเตอร์ ซิตี้ กลับมายืนจ่าฝูง ขณะที่คู่แข่งอย่าง อิปสวิช และลีดส์ ก็ดันฟอร์มร่วงพร้อมกันจนสุดท้ายก็เป็น “จิ้งจอกสยาม” คว้าตั๋วเลื่อนชั้นกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในซีซันหน้า

แม้ว่าจะได้เลื่อนชั้นก็จริง แต่เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังมีการบ้านให้ทำอย่างหนัก เพราะพรีเมียร์ลีก ขึ้นชื่อว่าเป็นลีกที่หินที่สุดในโลก ซึ่ง “จิ้งจอกสยาม” หายไปเพียงแค่ 1 ปีก็จริง แต่ 1 ปีในพรีเมียร์ลีกเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ

การบ้านที่หนักที่สุดก็คงไม่พ้นการซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทัพ ซึ่งทางเลสเตอร์ ซิตี้ จะทำซ้ำรอยแบบซีซันที่ตกชั้นไม่ได้ โดยในตอนนั้นทาง “จิ้งจอกสยาม” เลือกเสริมทัพเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นในช่วงซัมเมอร์จนสุดท้ายผลลัพธ์ก็ออกมาแบบที่เห็น

ไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตามในซีซันที่แล้วเชื่อว่า “ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ จะไม่ทำซ้ำรอยเดิมแน่นอน

เพราะหากเขียมไม่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อนักเตะมาเสริมแกร่งให้มากขึ้นกว่านี้โอกาสที่จะกลับมาเล่นในเดอะ แชมเปียนชิป ภายในปีเดียวก็มีเช่นกัน!!

โพสต์จาก thairathsport