ข่าวฮอต

ผีแดงคืนชีพ

ผีแดงคืนชีพ
เหนือความคาดหมายเล็กๆ สำหรับเกม เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ “ปิศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะเหนือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในศึกแดงเดือดเวอร์ชันบอลถ้วย

ย้อนไปก่อนแข่งหลายคนก็มองว่า ลิเวอร์พูล เป็นต่อกว่าทางแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่หลายช่วงตัว แถม “หงส์แดง” เพิ่งกดสปาร์ตา ปราก มารวมสองนัดไปถึง 10-2 ขณะที่ “ปิศาจแดง” ฟอร์มยังขึ้นๆลงๆ เอาแน่นอนไม่ได้

แต่พอเริ่มเกมมาวันนี้บอกได้เลยว่า เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ชาวดัตช์ของเจ้าถิ่น วางแผนได้ดีจริงๆ สามารถจัดการแผงกองกลาง “หงส์” ได้อยู่หมัด ขณะเดียวกันก็วางแผนให้ทีมตัวเองเล่นเกมรุกที่รวดเร็วฉับไวจนมีสกอร์อย่างรวดเร็ว จากสกอตต์ แมคโทมิเนย์ ที่ตามซ้ำจังหวะที่ควีวิน เคลเลเฮอร์ เซฟบอลไม่พ้นหน้าปากประตู

พูดถึง แมคโทมิเนย์ นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ของยูไนเต็ด ปีนี้เป็นปีที่เขายิงได้มากที่สุด ตอนนี้ซัดไปแล้ว 9 ประตูจาก 34 นัดรวมทุกรายการเหมือนกับว่า เทน ฮาก ได้พบคู่มือการใช้งานของแข้งวิสกี้เป็นที่เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม “ผี” ก็ยังคงเป็น “ผี” วันยังค่ำเมื่ออยู่ดีๆ ก็มาเสียประตูง่ายๆ จากการทำพลาดของตัวเองจนโดนลิเวอร์พูลบุกยิง 2 เม็ด จากอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จบครึ่งแรก “หงส์” แซงนำ 2-1

พอมาในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลก็ครองเกมเอาไว้ได้หมดเรียกว่าน่าจะไล่ขย่มอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็พลาดโอกาสเหน่งๆ หลายต่อหลายครั้ง จนไม่สามารถฉีกหนีไปได้ โดยเฉพาะจังหวะที่หลุดมามีแนวรุก “หงส์แดง” 5 คน ส่วนแนวรับ “ผีแดง” มีแค่ 2 คนเท่านั้น ใครเห็นคิดว่ายังไงก็เป็น 3-1 แต่สุดท้ายช้าจนโดนสกัดออกไป

ซึ่งจังหวะดังกล่าวแทบจะเป็นจุดเปลี่ยนถ้ายิงเข้าคือฝังกลบ “ผีแดง” และเตรียมสวดส่งวิญญาณได้เลย แต่เมื่อไม่สามารถทำได้สุดท้าย “หงส์แดง” ก็โดนวิญญาณตัวนี้ตามมาหลอกหลอนจนได้

เมื่อมาโดน “ผีแดง” ยิงตีเสมอได้ในช่วงก่อนหมดเวลา 3 นาที จาก “เดอะ หมุน” อันโตนี ที่หมุนตัวยิงเข้าไปตามคอนเซปต์ของตนเอง ทำให้ต้องเล่นต่อเวลาพิเศษ

พอลงมาเล่นอีกครั้ง “หงส์แดง” ก็ทำได้ดีเมื่อเปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่ “ปิศาจแดง” ทันทีและก็ออกนำอีกครั้ง 3-2 จากฝีเท้าของลูกหม้ออย่าง
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และทุกอย่างทำท่าจะกลับมาอยู่ในมือลิเวอร์พูล

แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อกลับมาเล่นในช่วงต่อเวลาครึ่งหลังแข้ง “ผีแดง” ที่ปกติเจอแบบนี้ต้องหงอยและเริ่มถอดใจ แต่ครั้งนี้ไม่รู้เทน ฮาก
ให้อะไรกินหรือปลุกใจกันอย่างไร คึกกันน่าดู เปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่แบบวันเวย์

เช่นเดียวกันตัวผู้เป็นกุนซือเปิดเกมแลกทั้งหมดส่งแนวรุกที่มีลงมาทั้งหมด เพื่อวัดใจกันเลย แต่สุดท้ายเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ก่อนหน้านี้ได้ยิงหวาดเสียวมา 2-3 ลูกแล้ว ก็ลงโทษจากความผิดพลาดของ “หงส์แดง” ที่จ่ายบอลพลาด หลุดเข้าไปยิงให้แมนฯ ยูไนเต็ด ตีเสมอเป็น 3-3

เกมทำท่าจะจบด้วยการเสมอและไปยิงจุดโทษ แต่ลิเวอร์พูลก็พลาดอีกดันกั๊กกันเองไม่มีคนเข้าบอลทำให้บอลตกอยู่หน้ากรอบเขตโทษของ แมนฯ ยูไนเต็ด จนอาหมัด ดิยัลโล ทำชิ่งกับอเล ฮานโดร การ์นาโช เพื่อนร่วมทีม พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนซัดเข้าไปตุงตาข่าย ให้ “ผีแดง” ชนะลิเวอร์พูลไปได้ 4-3 อย่างเจ็บแสบพร้อมตั๋วเข้าสู่รอบตัดเชือกไปเจอกับโคเวนทรี ซิต้ี ทีมจากเดอะ แชมเปียนชิป

หนทางเข้าสู่นัดชิงมันช่างสะดวกโล่งสบายหากไม่ประมาทเองน่าจะผ่านเข้าชิงได้ไม่ยาก

บอกได้เลยว่าในศึกแดงเดือดในช่วง 2-3 ฤดูกาลหลังนี้มีเกมนี้แหละที่เล่นได้สมราคากับคำว่า “แดงเดือด” มากที่สุด ใส่กันเต็มด้วยความมันระดับ 10 ดาวเลยทีเดียว แถมเกมพลิกไปพลิกมาแบบเดาทางไม่ถูก

แต่สิ่งที่บ่งบอกจากเกมนี้ได้เลยว่า “ปิศาจแดง” ที่มีเลือดนักสู้และไม่เคยหยุดจนนาทีสุดท้ายคืนชีพ กลับมาแล้วและพร้อมที่จะมาไล่ล่าเป้าหมายของพวกเขา

ใครที่ครอบครองสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่ตอนนี้ระวังหลังเอาไว้ให้ดีพวกเขาจะมาทวงคืนในอีก 10 นัดที่เหลือหลังจากนี้!!

โพสต์จาก thairathsport