อันดับ ทีม นัด ชนะ เสมอ แพ้ แต้ม
1 พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 15 14 1 0 43
2 เอฟซี ทเวนเต้ แอ็นสเคอเด 15 12 1 2 37
3 เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม 15 11 3 1 36
4 อาแซด อัลค์มาร์ 15 10 2 3 32
5 อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม 15 8 5 2 29
6 เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น 15 8 4 3 28
7 อูเทร็คท์ 15 7 5 3 26
8 โก อเฮด อีเกิ้ลส์ 15 7 4 4 25
9 ฟอร์ทูน่า ซิตตาร์ด 15 7 4 4 25
10 เอสซี ฮีเรนวีน 15 6 3 6 21
11 เฮราเคิ่ลส์ อัลมีโร่ 15 6 3 6 21
12 สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม 15 4 5 6 17
13 เอ็กเซลซิเออร์ เอสบีวี 15 3 7 5 16
14 อาร์เคซี วาลไวก์ 15 4 4 7 16
15 อัลเมเร่ ซิตี้ 15 3 6 6 15
16 พีอีซี ซโวลล์ 15 4 3 8 15
17 โวเลนดัม 15 3 2 10 11
18 วิเทสส์ อาร์นเฮม 15 1 5 9 8
กติกาการเล่น
เอเรอดีวีซี (ดัตช์: Eredivisie, ออกเสียง: [ˈeː.rə.di.ˌvi.zi]) เป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1956 หลังจากเริ่มมีการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลอาชีพในเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันอยู่อันดับ 9 ของลีกที่ดีที่สุดในยุโรป จัดอันดับโดยยูฟ่าลีกนี้มีทีม 18 สโมสร โดยแต่ละทีมจะแข่งกับสโมสรอื่น 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งในฐานะทีมเหย้า อีกครั้งในฐานะทีมเยือน โดยเมื่อจบฤดูกาล ทีมที่อยู่ท้ายตารางสุดจะตกไปอยู่ในดิวิชัน 1 หรือเอร์สเตอดีวีซี (Eerste Divisie) โดยทันที ส่วนผู้ชนะในดิวิชัน 1 จะเลื่อนชั้นขึ้นมาในลีกนี้โดยทันที ส่วนอันดับ 16 และ 17 ของตารางเอเรอดีวีซี และทีมจากเอร์สเตอดีวีซี จะแข่งในรอบเพลย์ออฟ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีสโมสรจากเอเรอดีวีซีแข่งทั้งเหย้าและเยือน โดยผู้ชนะในแต่ละกลุ่มในรอบเพลย์ออฟจะได้อยู่ในลีกเอเรอดีวีซีในฤดูกาลถัดไป ส่วน 2 ทีมที่อันดับดีสุดจะได้ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยทีมชนะเลิศจะผ่านเข้าไปรอในรอบแบ่งกลุ่มและได้อยู่โถ 1 ในขณะที่ทีมอันดับ 2 จะต้องแข่งรอบเพลย์ออฟอีกทีหนึ่ง ส่วนอันดับ 3 จะมีสิทธิเข้าไปเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีกรอบเพลย์ออฟสโมสรที่ชนะในลีกมากที่สุดคือ อาเอฟเซ อายักซ์ (AFC Ajax)ประวัติเนเธอร์แลนด์มีการก่อตั้งฟุตบอลแชมเปียนชิพระดับชาติขึ้นในปี ค.ศ. 1898 โดยนำผู้ชนะเลิศในลีกท้องถิ่นมาตัดสินหาแชมป์ในระบบเพลย์ออฟระดับชาติ ทุกสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็นเพียงสโมสรสมัครเล่น โดยราชสมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ (KNVB) สั่งห้ามผู้เล่นคนใดรับเงินเดือน หากพบจะตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกับผู้เล่นคนนั้นทันที ต่อมา ราวคริสต์ทศวรรษที่ 1950 มีการเรียกร้องให้มีการจัดตั้งระบบฟุตบอลอาชีพขึ้นในประเทศ หลังจากที่ผู้เล่นฝีเท้าดีหลายคนต้องย้ายไปเล่นในต่างประเทศเพื่อรับค่าตอบแทนที่ดีกว่า ผู้เล่นเหล่านี้มักจะถูกสมาคมฟุตบอลตัดชื่อไม่ให้ติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เนเธอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1953 ผู้เล่นชาวดัตช์ที่เล่นในต่างประเทศ (ส่วนใหญ่เล่นอยู่ในลีกฝรั่งเศส) ได้จัดฟุตบอลการกุศลนัดพิเศษขึ้นเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยแข่งขันกับทีมชาติฝรั่งเศส แม้จะถูกสมาคมฟุตบอลคว่ำบาตรเกมครั้งนี้ แต่ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมเนเธอร์แลนด์สามารถเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสได้ 2-1 เป็นจุดที่กระตุ้นให้ประชาชนชาวเนเธอร์แลนด์ได้เห็นว่า ฟุตบอลอาชีพนำมาซึ่งการประสบความสำเร็จได้จากกระแสเรียกร้องนี้ เนเธอร์แลนด์จึงได้มีการจัดตั้งลีกอาชีพขึ้นเมื่อฤดูกาล 1954-55 โดยสมาคมนักฟุตบอลอาชีพที่ตั้งขึ้นในนาม NBVB อย่างไรก็ตาม ราชสมาคมฟุตบอลยังไม่เห็นด้วยจึงได้จัดประชุมร่วมกับประธานสโมสรของสโมสรสมัครเล่นเดิมผลที่เกิดขึ้นคือ ราชสมาคมฟุตบอลและสมาคมนักฟุตบอลอาชีพได้จัดการแข่งขันแยกกัน โดยการแข่งขันแมตช์แรกระหว่างสโมสรฟุตบอลอาชีพคือแมตช์ระหว่างสโมสรอาลค์มาร์และสโมสรเฟนโล หลังจากผ่านไปได้ 11 เกม สมาคมทั้งสองได้จัดประชุมกันอีกครั้งในเดือนกันยายนเพื่อเจรจารวมลีก ในที่สุด ทั้งสองลีกถูกยุบเลิกและรวมตัวกันกำเนิดลีกใหม่ในทีนที โดยมีสโมสรเดอ กราฟสคาป อัมสเตอร์ดัม อาลค์มาร์ ฟอร์ทูนา’54 ราปิดเยเซ โฮลลันด์สโปร์ต และโรดาสโปร์ต จากลีกสมาคมนักฟุตบอลอาชีพได้เข้าร่วมลีกใหม่ทันที สโมสรแรกที่ชนะเลิศการแข่งขันคือวิลเลิม ทเวต่อมา ในฤดูกาล 1956-57 ราชสมาคมฟุตบอลได้สั่งยกเลิกลีกท้องถิ่น และก่อตั้งลีกเอเรอดีวีซีขึ้น โดยมี 18 สโมสรที่ดีที่สุดเล่นในลีกสูงสุดโดยไม่มีการเพลย์ออฟ มีสโมสรร่วมก่อตั้ง 18 สโมสร[7] และอายักซ์เป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ไปครอง